ประวัติความเป็นมา
     ค.ศ.1966 : Mr. Ichiro Mori ประธานบริษัท Nikka Japan.Co.,Ltd.   ประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางมาประเทศไทยเพื่อเยี่ยมชมสวนยางพาราของไทย  ซึ่งตามปกติแล้วชาวสวนจะปลูกต้นยางพาราเพื่อกรีดน้ำยางมาแปรรูปเท่านั้น เมื่อน้ำยางหมด ต้นจะถูกโค่นทิ้ง ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์อะไร  Mr. Ichiro Mori สังเกตุเห็นว่าไม้ยางพาราที่ถูกโค่นทิ้งมีสีขาวนวล สวยงาม เนื้อไม้ดูมีความน่าสนใจ น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้  จึงลงทุนเปิดโรงไม้เล็ก ๆอยู่ในสวนยาง เพื่อนำไม้จากต้นยางพารามาศึกษาเพื่อต่อยอดทางธุรกิจ โดยมีคนไทย 2 คนคือนายเทิดทูน ไทยเที่ยงธรรมและนายสมศักดิ์ อัชรีวงศ์ไพศาล  เป็น Partner ร่วมกันในการริเริ่มครั้งนี้  (ทั้ง 2 ท่านดำรงตำแหน่งประธานบริษัทและกรรมการบริษัทในปัจจุบัน)
     ตั้งแต่เริ่มต้นการศึกษาไม้จากต้นยางพารา ก็พบอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องความชื้นของเนื้อไม้ที่ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย, มีแมลงกัดกินเนื้อไม้ ทั้งมอดและปลวก เมื่อมีการลองผิดลองถูกในการแก้ปัญหาเรื่องความชื้นและแมลงต่าง ๆ สิ่งที่ลงตัวมากที่สุดในเวลานั้นคือการใช้สารเคมี, ความร้อนและความดันเป็นตัวช่วยในการควบคุมปัญหาต่าง ๆเมื่อแก้ปัญหาได้เบื้องต้นเกี่ยวกับเนื้อไม้ได้แล้ว  กลุ่มผู้ริเริ่มได้เรียกชื่อไม้ชนิดนี้ว่า  “PARAWOOD (ไม้ยางพารา)”  ชื่อเรียกง่าย ๆตามชื่อต้นยางพาราที่เป็นที่รู้จักกันมาถึงปัจจุบัน  กว่าจะนำไม้จากต้นยางพารานี้มาใช้ผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์และชิ้นงานต่าง ๆได้ กลุ่มผู้ริเริ่มต้องใช้เวลานานถึง 5 ปีเลยทีเดียว
 

สินค้าชิ้นแรกที่ผลิตจากไม้ยางพาราและจุดเริ่มต้นของเฟอร์นิเจอร์

     เนื่องจาก Mr. Ichiro Mori เป็นประธานบริษัท Nikka Japan.Co.,Ltd.   ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตด้ายและสิ่งทอ สิ่งแรกที่ได้เริ่มผลิตจากไม้ยางพาราก็ย่อมต้องเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจสิ่งทอ นั่นคือ “แกนหลอดด้าย”   แต่ไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้  เราได้เปิด “โรงงานไม้ยางพาราแห่งแรกของโลก” ขึ้นมา เพื่อผลิตเฟอร์นิเจอร์และงานชิ้นส่วนต่าง ๆจากไม้ยางพารา โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศไทยเพราะเราคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เรามีทรัพยากรจากสวนยางพาราของเกษตรกรชาวไทยและมีกลุ่มผู้ริเริ่มชาวไทยร่วมเป็นกำลังสำคัญในครั้งนี้ โดยใช้ชื่อโรงงานแห่งนี้ว่า บริษัท นิกกาวู้ด จำกัด (ปัจจุบันคือบริษัท นิกกาพาราวู้ด จำกัด)
เมื่อก่อตั้งบริษัทแล้ว Mr. Ichiro Mori ได้ติดต่อบริษัทต่าง ๆในประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำเสนองานชิ้นส่วนไม้ยางพาราสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์  การนำเสนอไม้ชนิดใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเพราะเมื่อนำไม้ไปให้บริษัทต่าง ๆทดลองใช้งานก็ต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่านำไปผลิตเป็นชิ้นงานได้ยากจึงถูกปฏิเสธมาตลอด จนในที่สุด Mr. Ichiro Mori  ก็ได้การตอบรับจาก  Matsuda Sangyo.Co.,Ltd ให้ความสนใจและเล็งเห็นถึงศักยภาพของไม้ยางพาราว่าสามารถนำมาผลิตเป็นสินค้าอื่น ๆได้ ในปี 1969 นี้เองที่เราได้รับออเดอร์แรกจาก Matsuda Sangyo.Co.,Ltd  เป็นงานผลิตชิ้นส่วนเก้าอี้และชิ้นส่วนโต๊ะ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเปิดตลาดงานไม้ยางพาราและก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์อย่างเต็มตัว
โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งแรกของไทย
     ค.ศ. 1969 : ได้มีการตั้ง ”โรงงานเฟอร์นิเจอร์แห่งแรก” ขึ้น  นั่นคือบริษัท นิกกาวู้ด จำกัด (บริษัท นิกกาพาราวู้ด จำกัด ในปัจจุบัน)  โดยตั้งโรงงานอยู่ในแหล่งการปลูกไม้ยางพาราเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ มีจุดประสงค์การตั้งโรงงานแห่งนี้เพื่อผลิตสินค้าเพื่อส่งไปขายในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก การตั้งโรงงานแห่งแรกย่อมมีอุปสรรคต่าง ๆมากมายเพราะเป็นสิ่งใหม่  แต่ผ่านไปไม่นานไม้ยางพาราก็ได้รับความสนใจจากภาครัฐทั้งรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่นทำให้ไม้ยางพาราเป็นที่รู้จักมากขึ้นและได้รับสนับสนุนในเรื่องของเงินทุนในการพัฒนาด้านต่าง ๆที่เกี่ยวกับไม้ยางพารา  ใน 2-3 ปีต่อมาเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราก็ได้รับการยอมรับในวงการเฟอร์นิเจอร์และเป็นที่รู้จักมากขึ้น จนเราได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นให้ผลิตสินค้าให้  ด้วยเหตุนี้เองบริษัทสามารถทำให้เกิดการจ้างงานในชุมชนได้มากกว่า 2,000 อัตราเลยทีเดียว
     ค.ศ. 1970 : ได้มีการจดทะเบียนบริษัท นิกกาพาราวู้ด จำกัด โดยเป็นบริษัทของไทยเองผลิตสินค้าให้ทางบริษัท Nikka Japan ซึ่งเป็นบริษัทของ Mr. Ichiro Mori  ทั้ง 2 บริษัทได้ร่วมทำธุรกิจเพื่อสานต่อความตั้งใจ, ความแน่วแน่ที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้จัก “ไม้ยางพารา”  เราให้การสนับสนุนกันและกันอย่างต่อเนื่องโดยทางไทยนั้นมีนายเทิดทูน ไทยเที่ยงธรรมและนายสมศักดิ์ อัชรีวงศ์ไพศาล เป็นผู้บริหารซึ่งทั้ง 2 ท่านคือบุคคลสำคัญในการริเริ่มการใช้ไม้ยางพารานั่นเอง  (ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทและกรรมการบริษัท นิกกาพาราวู้ด จำกัด ในปัจจุบัน)
     ปัจจุบันทั้ง 2 บริษัทเป็นคู่ค้าทางธุรกิจอันดีมานานต่อเนื่องถึง  50 ปี   ด้วยมาตรฐานการผลิตของเราที่สามารถคุมมาตรฐานการผลิตได้อย่างสม่ำเสมอ  เราได้รับการยอมรับจากประเทศญี่ปุ่นในหลาย ๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฝีมือการผลิต, ความปราณีตและประสบการณ์ต่าง ๆเราส่งต่อความสามารถทางการผลิตด้วยฝีมือของคนไทย ไปยังประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง  เราทำให้ไม้ยางพาราที่ถูกทิ้งขว้างกลายมาเป็นที่รู้จักทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยางพารา ทำให้เกิดรายได้ให้แก่เกษตรกรไทยชาวสวนยางให้มีรายได้เพิ่มขึ้น มิใช่เพียงรายได้จากน้ำยางเท่านั้นแต่ยังสามารถโค่นต้นยางขายได้อีกด้วย   ดังนั้นเราสามารถยืดอกบอกกล่าวได้อย่างภาคภูมิว่า “เราคือผู้ริเริ่มนำไม้จากต้นยางพารามาใช้งานและเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราแห่งแรก”
error: Content is protected !!